<span style="font-style: italic; font-size: 14pt">โดย <a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา</a> ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย<br />
<br />
</span><span style="font-size: 12pt">ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวฯ มีวัตถุประสงค์หลักในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้คนไทยหันกลับมาบริโภคน้ำมันมะพร้าว หลังจากที่น้ำมันมะพร้าวได้ถูกสมาคมถั่วเหลืองอเมริกัน ปรักปรำว่าเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคอ้วน ซึ่งจากผลงานของนักวิจัยพบว่าไม่เป็นความจริง ดังจะได้เห็นได้จากบรรพบุรุษของคนไทย ที่บริโภค<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันมะพร้าว</a>ไม่มีใครเป็น<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">โรคหัวใจ</a>และ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">โรคอ้วน</a>แต่อย่างใด<br />
<br />
เหตุจูงใจที่ผู้เขียนเรียบเรียงเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ เพิ่งจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ฉบับที่ 1/2552 เรื่อง "สวยได้ด้วยน้ำมันมะพร้าว" ซึ่งมีการกล่าวถึงบทบาทของ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันมะพร้าว</a> ในการลดความอ้วนอยู่บ้าง ก็เพราะได้อ่านพบในเว็บไซต์อันหนึ่ง ซึ่งเรียบเรียงโดยหมอท่านหนึ่ง ที่กล่าวหาว่า น้ำมันมะพร้าวไม่สามารถช่วย<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">ลดความอ้วน</a>ได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวก็เป็นน้ำมันประเภทหนึ่ง และน้ำมันก็คือไขมันที่เมื่อบริโภคเข้าไป ก็จะไปสะสมเป็นน้ำมันในเซลล์ไขมัน ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้น แต่ความจริงก็คือ มีความแตกต่างกันอย่างมากระกว่างน้ำมันชนิดต่างๆ กล่าวคือ กรดไขมันขนาดยาว ที่มีอยู่ในน้ำมันไม่อิ่มตัวทุกชนิด รวมทั้งใน<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันอิ่มตัว</a>จากสัตว์และพืชต่างๆ ย่อยยาก และไม่เปลี่ยนเป็นพลังงานที่ตับ จึงสะสมเป็นไขมัน ในขณะที่กรดไขมันขนาดกลางที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าว ย่อยง่ายและเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ตับจนหมดสิ้น ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกายจึงไม่อ้วน<br />
<br />
ผู้เขียน ในนามของชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน่ำมันมะพร้าวฯ ขอขอบคุณบริษัทห้างร้าน ที่ให้ความอนุเคราะห็ในการจัดพิมพ์เอกสารนี้ขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายให้แก่สมาชิกของท่านตลอดจนแก่สมาชิกของชมรม</span>
<br />
</span><span style="font-size: 12pt">ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวฯ มีวัตถุประสงค์หลักในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้คนไทยหันกลับมาบริโภคน้ำมันมะพร้าว หลังจากที่น้ำมันมะพร้าวได้ถูกสมาคมถั่วเหลืองอเมริกัน ปรักปรำว่าเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคอ้วน ซึ่งจากผลงานของนักวิจัยพบว่าไม่เป็นความจริง ดังจะได้เห็นได้จากบรรพบุรุษของคนไทย ที่บริโภค<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันมะพร้าว</a>ไม่มีใครเป็น<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">โรคหัวใจ</a>และ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">โรคอ้วน</a>แต่อย่างใด<br />
<br />
เหตุจูงใจที่ผู้เขียนเรียบเรียงเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ เพิ่งจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ฉบับที่ 1/2552 เรื่อง "สวยได้ด้วยน้ำมันมะพร้าว" ซึ่งมีการกล่าวถึงบทบาทของ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันมะพร้าว</a> ในการลดความอ้วนอยู่บ้าง ก็เพราะได้อ่านพบในเว็บไซต์อันหนึ่ง ซึ่งเรียบเรียงโดยหมอท่านหนึ่ง ที่กล่าวหาว่า น้ำมันมะพร้าวไม่สามารถช่วย<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">ลดความอ้วน</a>ได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวก็เป็นน้ำมันประเภทหนึ่ง และน้ำมันก็คือไขมันที่เมื่อบริโภคเข้าไป ก็จะไปสะสมเป็นน้ำมันในเซลล์ไขมัน ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้น แต่ความจริงก็คือ มีความแตกต่างกันอย่างมากระกว่างน้ำมันชนิดต่างๆ กล่าวคือ กรดไขมันขนาดยาว ที่มีอยู่ในน้ำมันไม่อิ่มตัวทุกชนิด รวมทั้งใน<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com/default.aspx" target="_self">น้ำมันอิ่มตัว</a>จากสัตว์และพืชต่างๆ ย่อยยาก และไม่เปลี่ยนเป็นพลังงานที่ตับ จึงสะสมเป็นไขมัน ในขณะที่กรดไขมันขนาดกลางที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าว ย่อยง่ายและเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ตับจนหมดสิ้น ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกายจึงไม่อ้วน<br />
<br />
ผู้เขียน ในนามของชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน่ำมันมะพร้าวฯ ขอขอบคุณบริษัทห้างร้าน ที่ให้ความอนุเคราะห็ในการจัดพิมพ์เอกสารนี้ขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายให้แก่สมาชิกของท่านตลอดจนแก่สมาชิกของชมรม</span>