<span style="font-size: 12pt; font-weight: bold;">1.3 ความจริงที่ถูกเปิดเผย<br />
<br />
</span><span style="font-size: 12pt;"> แม้กระทั่งในปัจจุบัน คนทั่วไปก็ยังเชื่อว่า<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">น้ำมันมะพร้าว</a>เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเป็นต้นเหตุของ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">โรคหัวใจ</a> ผู้ที่ได้ออกมาต่อสู้กับความบอดเบือนในวงการวิทยาศาสตร์อันเนื่องมาจากผลประโยชน์อันมหาศาลของอุตสาหกรรมน้ำมันพืชอเมริกัน คือ Dr. Mary G. Enig, Director, Nutritional Sciences Division , Enig Associates, Inc. ซึ่งได้เรียบรียงหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">Know Your Fats</a> : The Complete Primer for Understanding the Nutrition of Fats , Oils and Cholesterol." <br />
<br />
ในหนังสือเล่มนี้ Dr.Enig ได้กล่าวว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาด และบิดเบือนในวงการแพทย์ และสื่อสารมวลชนของน้ำมันอิ่มตัวธรรมชาติ กล่าวคือน้ำมันเขตร้อน อันได้แก่ น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม ได้รับการประนามว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก็เพราะแรงผลักดันทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมน้ำมันพืชอเมริกัน <br />
<br />
ที่จริงแล้ว จากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า น้ำมันเขตร้อนกลับเป็นตัว<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">ป้องกันโรคหัวใจ</a> ดังเช่นในปี 1981 ได้มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า ชาวพื้นเมืองในเกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งบริโภคน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำในปริมาณสูง ไม่มีใครเป็นโรคหัวใจแต่อย่างใด แต่เมื่อชาวพื้นเมืองเหล่านี้ อพยพไปสู่ประเทศนิวซีแลนด์ และลดการบริโภคน้ำมันมะพร้าว ผลปรากฏว่า คอเลสเตอรอลรวม และ LDL เพิ่มขึ้น และ HDL กลับลดลง<br />
<br />
นอกจาก Dr.Enig ซึ่งมีผลการวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วมากมาย ยังมีนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ชาวอเมริกันอีกหลายคน ที่ยังซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตน ได้ออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ บุคคลเหล่านี้ได้แก่ <br />
<br />
Dr.Bruce Fife (2000,2004,2005,2006)<br />
Dr.Ray Peat(2004,2005)<br />
Dr.Jon .J. Kabara (1978,1985,2004)<br />
Dr. O. Ravnskov(2000)<br />
Dr.Joseph Mercola(2003)<br />
</span>
<p style="margin: 0px; text-align: right;"><span style="font-size: 12pt; font-weight: bold;"> </span><span style="font-size: 12pt; font-style: italic;">โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย</span></p>
<br />
</span><span style="font-size: 12pt;"> แม้กระทั่งในปัจจุบัน คนทั่วไปก็ยังเชื่อว่า<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">น้ำมันมะพร้าว</a>เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเป็นต้นเหตุของ<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">โรคหัวใจ</a> ผู้ที่ได้ออกมาต่อสู้กับความบอดเบือนในวงการวิทยาศาสตร์อันเนื่องมาจากผลประโยชน์อันมหาศาลของอุตสาหกรรมน้ำมันพืชอเมริกัน คือ Dr. Mary G. Enig, Director, Nutritional Sciences Division , Enig Associates, Inc. ซึ่งได้เรียบรียงหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">Know Your Fats</a> : The Complete Primer for Understanding the Nutrition of Fats , Oils and Cholesterol." <br />
<br />
ในหนังสือเล่มนี้ Dr.Enig ได้กล่าวว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาด และบิดเบือนในวงการแพทย์ และสื่อสารมวลชนของน้ำมันอิ่มตัวธรรมชาติ กล่าวคือน้ำมันเขตร้อน อันได้แก่ น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม ได้รับการประนามว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก็เพราะแรงผลักดันทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมน้ำมันพืชอเมริกัน <br />
<br />
ที่จริงแล้ว จากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า น้ำมันเขตร้อนกลับเป็นตัว<a shape="rect" href="http://www.coconutplaza.com" target="_blank">ป้องกันโรคหัวใจ</a> ดังเช่นในปี 1981 ได้มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า ชาวพื้นเมืองในเกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งบริโภคน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำในปริมาณสูง ไม่มีใครเป็นโรคหัวใจแต่อย่างใด แต่เมื่อชาวพื้นเมืองเหล่านี้ อพยพไปสู่ประเทศนิวซีแลนด์ และลดการบริโภคน้ำมันมะพร้าว ผลปรากฏว่า คอเลสเตอรอลรวม และ LDL เพิ่มขึ้น และ HDL กลับลดลง<br />
<br />
นอกจาก Dr.Enig ซึ่งมีผลการวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วมากมาย ยังมีนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ชาวอเมริกันอีกหลายคน ที่ยังซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตน ได้ออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ บุคคลเหล่านี้ได้แก่ <br />
<br />
Dr.Bruce Fife (2000,2004,2005,2006)<br />
Dr.Ray Peat(2004,2005)<br />
Dr.Jon .J. Kabara (1978,1985,2004)<br />
Dr. O. Ravnskov(2000)<br />
Dr.Joseph Mercola(2003)<br />
</span>
<p style="margin: 0px; text-align: right;"><span style="font-size: 12pt; font-weight: bold;"> </span><span style="font-size: 12pt; font-style: italic;">โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย</span></p>