1. ถ้าต้องการรับประทานน้ำมันมะพร้าวเพียวๆแนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวประเภท Virgin Coconut Oil ซึ่งมีจำหน่ายทั้งแบบน้ำบรรจุขวดและแบบแคปซูล
2. ถ้าต้องการใช้ประกอบอาหาร สามารถใช้ได้ทั้งแบบ Virgin Coconut Oil และ Cooking Coconut oil
น้ำมันมะพร้าวจะมีกรดไขมันสายสั้นกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ ซึ่งร่างกายของเราจะย่อยได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องใช้เอนไซม์อะไรมากมายมาช่วยย่อยด้วย แถมยังไม่ทิ้งสารตกค้างเอาไว้ในตับอ่อน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการย่อยและการเผาผลาญพลังงาน
จากการศึกษาพบว่าเมื่อรับประทานน้ำมันมะพร้าวเสริมเข้าไปเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ค่าดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว และคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีก็ลดลงไปด้วย แถมคอเลสเตอรอลดีก็เพิ่มขึ้นมาแทน ดังนั้นถ้าสาวๆเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าวในการบริโภคแทนน้ำมันอื่นๆ รับรองว่าต้องสุขภาพดีและห่างไกลจาก ‘พุง’ ด้วยแน่ๆ
น้ำมันที่จะใช้ปรุงอาหารต้องมีความทนทานมากพอที่จะไม่เปลี่ยนคุณลักษณะทางเคมีไปเมื่อโดนความร้อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เป็นโทษต่อร่างกาย แต่น้ำมันมะพร้าวจะมีทนทานความร้อนกว่า ดังนั้นหายห่วงเรื่องพิษและคลอเลสเตอรอลแย่ๆไปได้เลย
น้ำมันมะพร้าวมีไขมันต่ำ ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ แถมยังสามารถกระตุ้นเมตาบอลิซึมให้เผาผลาญได้เร็วขึ้น และด้วยความที่น้ำมันมะพร้าวส่วนใหญ่จะมีกรดไขมันสายปานกลาง น้ำมันมะพร้าวจะย่อยและเผาผลาญง่ายกว่า อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ไม่เหม็นหืนแม้เก็บไว้นาน
ประเทศต่างๆในเขตร้อนมักจะรู้จักน้ำมันมะพร้าวในด้านการทำผมให้เงางามและหนา และน้ำมันมะพร้าวจะไม่ทำให้เส้นผมหนังศีรษะแห้งกร้าน หมดปัญหาเรื่องรังแคและเชื้อไปเลย สาวๆอาจจะเอาน้ำมันมะพร้าวทาผมก่อนสระ ใช้เป็นครีมนวด หรือจะใช้หลังจากการสระผมนิดหน่อยก็ได้นะ
น้ำมันมะพร้าวถือเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่เลิศมาก แถมมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียและต้านเชื้อรา น้ำมันมะพร้าวขึ้นชื่อมากๆเลยสำหรับการรักษาผิวพรรณให้ดูสวย เพราะมันสามารถต้านอนุมูลอิสระ กระชับรอยลึกที่เกิดขึ้น และป้องกันผิวพรรณจากร่องรอยที่อาจจะเกิดก่อนวัย
แคนดิดาหรือยีสต์ที่เติบโตในระบบการย่อยอาหารนั้นเป็นอันตรายมากค่ะ เพราะมันสามารถตรวจพบได้ยาก แถมจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายเลย แต่ว่าน้ำมันมะพร้าวประกอบไปด้วยกรดลอริคและคาพรีลิค ซึ่งจะไปฆ่าเชื้อราและยีสต์ที่อยู่ในร่างกายเราได้ค่ะ
แปลและเรียบเรียงโดย raraROBYN
ที่มา learni
จากการศึกษาพบว่า
* การล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก ลดคราบพลัคได้ 20-26 % และโรคเหงือกประมาณ 13%
* การแปลงฟันลดคราบพลัคได้ 11-17 % และโรคเหงือก 8-23%
* แต่การใช้น้ำมันมะพร้าวอมกลั้วปากลดคราบพลัคได้ 18-30% และลดโรคเหงือกได้ 52-60%
การทำออยล์ พูลลิ่ง ควรทำตอนเช้าดีที่สุด เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด
ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็นทรอปิคานา ประมาณ 2-3 ช้อนชา หลังจากนั้นอมไว้ในปาก แล้วค่อยเคลื่อนน้ำมันไปเรื่อยๆให้ทั่วในช่องปากต่อเนื่องนาน 15-20 นาที จึงบ้วนทิ้งไป น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นหรือมีสีเหลือง หลังจากนั้นบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการดื่มน้ำ ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 -3 ครั้งหรือทำทุกวันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี ไม่มีกลิ่นปาก
***เดือนนี้สั่งสินค้า 1,000 บาทขึ้นไป ส่งฟรี EMS***
สั่งซื้อได้ทาง
โทร. 0946419497 (พัช)
www.coconutplaza.com
แอดไลน์ร้าน กดลิงค์ ได้เลยค่า
http://line.me/ti/p/%40coconutplaza